สัตว์ปีก หรือ นก (รวมถึง ไก่,เป็ด,ห่าน,ไก่ฟ้า) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังชั้น Aves(คำว่า Aves เป็นภาษาละติน หมายถึง นก) โดยลักษณะทั่วไปคือ เป็นสัตว์เลือดอุ่นออกลูกเป็นไข่ รยางค์คู่หน้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก มีขนหนา และมีกระดูกที่กลวงเบา
ในปัจจุบันทั่วโลกมีนกประมาณ 8,800ถึง 9,800 ชนิด (จามการจัดอนุกรมวิธานที่ต่างกัน) ส่วนในประเทศไทยมีนกอยู่ประมาณ 1,011 ชนิด ซึ่งนับว่านกเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังที่มีความหลากหลายมากที่สุด ในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน สัตว์จำพวกนกจะมีความหลากหลายทางด้านรูปร่างภายนอก พฤติกรรม และการดำรงชีวิต ซึ่งแต่ละชนิดจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขนาดลำตัว สีสัน เสียงร้อง อาหารการกินและถิ่นที่อยู่อาศัย
ทุกส่วนในร่างกายของนกมีการวิวัฒนาการเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นเจ้าเวหาอย่างแท้จริง เริ่มจากกระดูก ภายในของกระดูกจะมีลักษณะกลวง คล้ายรวงผึ้ง ทำให้แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา นอกจากกระดูกแล้วยังมี รังไข่ของนกตัวเมีย ที่มีการตัดทอนให้เหลือเพียงข้างเดียว เพื่อลดน้ำหนักตัวให้มากที่สุด ปากของนกจะเป็นจงอยมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการกินอาหาร อาหารที่นกกินเข้าไปจะถูกกลืนลงสู่ทางเดินอาหาร โดยไม่มีการเคี้ยว เพราะในปากของนกจะไม่มีฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร แต่จะถูกกลืนผ่านหลอดอาหารลงสู้กระเพาะพักเพื่อเก็บสะสม แล้วจึงส่งต่อให้กระเพาะจริง เรียกว่า กระเพาะบดหรือกึ๋น ช่วยบดอาหารให้ละเอียด โดยใช้เม็ดกรวดและทรายที่นกจิกกินเข้าไป จากนั้นส่งต่อให้ลำไส้เล็กเพื่อย่อยจนสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ จะเหลือกากอาหารและถูกขับออกทางทวารหนักพร้อมปัสสาวะ เพราะท่อปัสสาวะของสัตว์ปีกจะมาบรรจบที่ปลายลำไส้พอดี มูลจึงมีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว
การบินของนกจะใช้การเผาพลาญพลังงานเป็นอย่างมาก ในการกระพือปีกของนกจะใช้กล้ามเนื้ออกอันแข็งแรงที่ติดอยู่กับกระดูกอก ด้วยเหตุนี้นกจึงต้องมีระบบหายใจและระบบหมุนเวียนโลหิตที่มีประสิทธิภาพ โดยหัวใจ 4 ห้อง และปอดกับถุงลมที่กระจายทั่วทั้งลำตัวช่วยให้สามารถกักเก็บอากาศไว้ได้มากขึ้น นกมีประสาทสัมผัสที่ว่องไว โดยเฉพาะประสาทสัมผัสทางสายตานกบางชนิดมีสายตาอันคมกริบ อาจกล่าวได้ว่าเป็นสายตาที่ดีที่สุดในบรรดาสายตาของสัตว์มีกระดูกสันหลังด้วยกัน การมองเห็นของนกพัฒนาไปมาก เช่นเดียวกับการควบคุมการเคลื่อนไหว เพราะการบินที่ดีต้องอาศัยการประสานงานที่ดีของทุกส่วนในร่างกายเพื่อความปลอดภัยในการบิน
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการบินของนกคือ ปีก นกมีปีกที่เป็นไปตามหลักอากาศการบิน เช่นเดียวกับปีกของเครื่องบิน โดยจะอาศัยแรงลมที่ผ่านบนปีกไปอย่างเร็ว กับแรงลมที่ผ่านใต้ปีกที่ช้ากว่า ลักษณะการไหลของอากาศระหว่างด้านบนปีกกับด้านล่างปีกที่แตกต่างกันนี้ จึงทำให้เกิดแรงที่เรียกว่า แรงยก ซึ่งนกได้อาศัยแรงยกนี้ร่วมกับลักษณะโครงสร้างของปีก ช่วยให้การบินอยู่บนท้องฟ้าได้นาน และยังเป็นส่วนช่วยให้นกสามารถบินข้ามทวีปได้ นกบางชนิดยังได้อาศัยประโยชน์จากแรงยกนี้เพื่อใช้ในการล่าเหยื่อ โดยการร่อนอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานานโดยไม่ต้องกระพือปีกเช่น เหยี่ยว
ส่วนขนนกนั้นนับว่าเป็นพัฒนาการที่พิเศษสุดอย่างหนึ่งในบรรดาพัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ขนนกเป็นส่วนประกอบของเคราติน มีลักษณะเบาแต่แข็งแรง ขนนกช่วยป้องกันนกจากแสงแดด ช่วยมนการหาคู่ ช่วยในการปรับอุณหภูมิของร่างกาย และที่สำคัญที่สุดคือช่วยในด้านการบินของนก